Blog Archive

Saturday, May 28, 2022

สง่างามและสวยงาม




สง่างามและสวยงาม

กรมควบคุมมลพิษ ชี้ "10 แม่น้ำสะอาด" อยู่ในเกณฑ์ดีสามารถใช้เล่นน้ำ และลงเล่นน้ำได้ตามปกติ พร้อมเล่นสงกรานต์

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค ติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำผิวดินที่สำคัญทั่วประเทศช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ของปี 2561 ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยแหล่งน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีสามารถใช้เล่นน้ำ และลงเล่นน้ำได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพราะอาจมีผลต่อสุขภาพได้ โดยแหล่งน้ำที่มีคุณภาพนํ้าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้แก่ 


1.แม่น้ำสงคราม 2.แม่น้ำอูน 3.แม่น้ำตาปีตอนบน แหล่งน้ำที่มีคุณภาพนํ้าอยู่ในเกณฑ์ดี อาทิ 1.แม่น้ำกก 2.แม่น้ำแม่จาง 3.แม่น้ำลี้ 4.แม่น้ำอิง 5.แม่น้ำวัง 6.แม่น้ำแควใหญ่ 7.แม่น้ำแม่กลอง 8.แม่น้ำตาปีตอนล่าง 9.แม่น้ำชุมพร 10.แม่น้ำปัตตานีตอนล่าง

นางสุณี กล่าวต่อว่า สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีการละเล่นน้ำสงกรานต์ ได้แก่ 1.ชายหาดท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวม 56 หาด ได้แก่ พื้นที่อ่าวไทยตอนใน 11 หาด อ่าวไทยฝั่งตะวันออก 14 หาด อ่าวไทยฝั่งตะวันตก 5 หาดและชายฝั่งอันดามัน 26 หาด พบว่าคุณภาพน้ำทะเลเบื้องต้นของบริเวณชายหาดท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล โดยชายหาดท่องเที่ยวทั้ง 56 หาด สามารถจะทำกิจกรรมนันทนาการทางน้ำได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามการทำกิจกรรมบริเวณชายหาดควรระมัดระวังเศษขยะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ 2.จ.เชียงใหม่ มีสถานที่หลักอย่างคูเมืองเชียงใหม่ที่เป็นหนึ่งสถานที่นักท่องเที่ยวนิยม

ก่อนเทศกาลสงกรานต์มาถึง เทศบาลนครเชียงใหม่ เตรียมน้ำดิบในคูเมือง เพื่อใช้สำหรับการเล่นสงกรานต์โดยการระบายน้ำจากคลองชลประทานเข้าคูเมืองเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน และผันน้ำเต็มคูเมืองทั้งหมด ในวันที่ 5 เมษายน โดยขุดลอก ดูดของเสีย ปรับปรุง

คุณภาพน้ำโดยเติมคลอรีนฆ่าเชื้อ ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับแหล่งน้ำ 3.จ.ขอนแก่น ถนนข้าวเหนียวที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมากมาเล่นน้ำสงกรานต์ยังบริเวณนี้ โดยทาง จ.ขอนแก่น เตรียมน้ำให้
สำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนตามจุดต่างๆ 4.จ.นครราชสีมา คูเมืองนครราชสีมา เป็นแหล่งน้ำที่มาจากบ่อบำบัดน้ำเสียรวมบ่อสุดท้ายที่สูบเข้ามาหล่อเลี้ยงคูเมือง ทำให้คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำไม่เหมาะแก่การอุปโภคและนำมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น นำมาเล่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศบาลนครราชสีมาได้เปิดน้ำจากท่อประปาดับเพลิงให้ประชนได้ใช้ฟรี ตามจุดต่างๆ รอบคูเมืองนครราชสีมา และ 5.จ.พระนครศรีอยุธยา สถานที่ท่องเที่ยวอย่างเกาะเมืองอยุธยาที่น่าจะเป็นหนึ่งสถานที่ที่จะมีการเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำยังบริเวณนี้เนื่องจากทำให้เกิดการจราจรติดขัด ดังนั้น นักท่องเที่ยวและประชาชนจึงนิยมเล่นน้ำสงกรานต์รอบนอกบริเวณทุ่งภูเขาทองและใช้น้ำจากทุ่งภูเขาทองมาใช้ในการเล่น ซึ่งมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี
























 

Saturday, May 14, 2022

แม่น้ำ



เท้านั้นสำคัญไฉน
           เท้าเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์ เท้าประกอบไปด้วยกระดูกชิ้นเล็กๆ 26 ชิ้น เท้า 2 ข้างมีกระดูกรวมกันทั้งหมด 52 ชิ้น ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของกระดูกทั้งหมดในร่างกาย ข้อต่อในเท้า มีทั้งหมด 38 ข้อ มีกล้ามเนื้อ 31 มัด มีเส้นเอ็นทั้งหมด 107 เส้น
           เท้าเป็นอวัยวะที่ทำงานหนัก ในขณะเดินมีแรงกระทำต่อเท้าข้างละประมาณ 120% ของน้ำหนักตัว และในขณะวิ่งมีแรงกระทำต่อเท้าสูงถึงข้างละประมาณ 275% ของน้ำหนักตัว มีการศึกษาพบว่าผู้ชายน้ำหนักตัว 68 กิโลกรัม เท้าแต่ละข้างต้องรับน้ำหนัก 63.5 ตันในขณะเดิน และสูงถึง 100 ตัน เมื่อวิ่งเป็นระยะทาง 1.6 กิโลเมตร มีผู้ประมาณการไว้ว่าชั่วชีวิตของมนุษย์ผู้หนึ่งจะใช้เท้าเดินเป็นระยะทางเฉลี่ยถึง 120,000 – 160,000 กิโลเมตร ซึ่งยาวมากกว่า 3 ถึง 4 เท่าของระยะทางรอบโลกเสียอีก 

เราใช้เท้าทำงานหนักในแต่ละวันจึงควรดูแลเท้าให้มีสุขภาพดี หลักการดูแลเท้าทำได้ดังนี้

     สิ่งที่ควรปฏิบัติในการดูแลเท้าทุกวัน
1. ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ
2. เช็ดเท้าให้แห้งทันที โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า 
3. ถ้าผิวแห้ง ทาครีมบางๆ ให้ทั่วทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า แต่ไม่ทาบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะอาจเกิดการหมักหมมได้
4. ถ้าเล็บยาวตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธีโดยตัดตามแนวขอบเล็บเท่านั้น ไม่ตัดเล็บเซาะเข้าไปทางด้านข้างของเล็บ 
5. ถ้าอากาศเย็นให้ใส่ถุงเท้านอน 
6. ใส่รองเท้าตลอดเวลาแม้นจะอยู่ในบ้านก็ตาม
7. ใส่รองเท้าที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ
8. ออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า

การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
1. เลือกแบบที่ปลอดภัยกับเท้า
           ปัจจุบันมีรองเท้าหลายแบบและหลายรูปทรงให้เลือก ควรลองรองเท้าลักษณะต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ รองเท้าที่เหมาะสมไม่ควร มีตะเข็บแข็งอยู่ด้านในและไม่ควรเลือกแบบที่ใส่แล้วคับเกินไป หลวมเกินไป หรือมีส่วนของรองเท้ากดหรือเสียดสีกับเท้า
2. เลือกแบบของรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้า
           เลือกรูปทรงรองเท้าที่เหมาะสมและมีลักษณะใกล้เคียงกับรูปเท้าของเราก่อน แล้วจึงลองขนาดของรองเท้า
3. ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนของขนาดรองเท้า
           รองเท้าเบอร์เดียวกันจะมีขนาดต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ แม้รองเท้ายี่ห้อเดียวกัน ถ้ารูปทรงต่างกันขนาดก็แตกต่างกัน ดังนั้นห้ามซื้อรองเท้าจากการดูเบอร์ ต้องลองสวมรองเท้าก่อนซื้อทุกครั้ง
4. วัดขนาดเท้าทั้งสองข้างก่อนเลือกซื้อรองเท้าเสมอ
           เท้าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ทั้งขนาดและรูปร่างในแต่ละช่วงอายุ อีกทั้งคนส่วนใหญ่มักมีเท้าข้างใดข้างหนึ่งกว้างหรือยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้างก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
5. ลองสวมเดินทุกครั้ง
           เมื่อเลือกรองเท้าได้แล้ว ต้องลองสวมเดินก่อนซื้อทุกครั้งเพราะรองเท้าที่ดีต้องสวมสบายทั้งในขณะนั่ง ยืนและเดิน

6. ความยาวของรองเท้าที่เหมาะสม
           ความยาวที่เหมาะสม คือ ใส่แล้วมีระยะระหว่างปลายนิ้วที่ยาวที่สุดกับปลายของรองเท้าเหลือประมาณ 3/8 – 1/2 นิ้วฟุต หรือเท่ากับขนาดความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ
7. ความกว้างของรองเท้าที่เหมาะสม
           ความกว้างที่เหมาะสม คือ ส่วนที่กว้างที่สุดภายในรองเท้าควรกว้างเท่ากับความกว้างที่สุดของเท้าและอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน
8. ส้นเท้าต้องอยู่พอดีกับส้นรองเท้า
           ตำแหน่งของส้นเท้าควรอยู่กับตำแหน่งของส้นรองเท้าและมีความกระชับพอดี เมื่อเดินแล้วรองเท้าไม่หลุดจากส้นเท้า
9. ถ้าใส่วัสดุเสริมในรองเท้าต้องเปลี่ยนขนาดรองเท้าให้เหมาะสม
           สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุเสริมภายในรองเท้า เช่น แผ่นรองใต้ฝ่าเท้า วัสดุเหล่านี้ทำให้รองเท้าคับขึ้น ดังนั้นเวลาเลือกรองเท้าต้องใส่วัสดุเสริมในรองเท้าก่อนลอง เพื่อให้ได้ขนาดรองเท้าที่เหมาะสม
10. เท้าเปลี่ยนขนาดได้ตามเวลาและชนิดของกิจกรรม
           เท้าเปลี่ยนขนาดและรูปร่างได้ในแต่ละช่วงของวัน เท้ามักจะขยายหลังจากเดินมาก นั่งห้อยเท้านาน ๆ หรืออกกำลังกาย ดังนั้น ก่อนเลือกรองเท้าต้องคำนึงถึงเวลาและกิจกรรมที่จะนำไปใช้ให้สอดคล้องกันด้วย                                               

           การออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า  

Friday, May 6, 2022

อยู่ให้สวย

 




1.กินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย
การกินอาหารที่มีประโยชน์คือสิ่งที่สาวๆ ต้องเน้นหนักกับตัวเอง ในแต่ละวันควรทานอาหารให้ได้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน การทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าของเราแลดูสุขภาพดีได้เช่นกัน


2.เข้านอนแต่หัวค่ำ
แม้การทำงานที่บ้าน จะทำให้เรามีอิสระในการทำงานช่วงเวลาไหนก็ได้ตามแต่ใจตัวเอง แต่พฤติกรรมเช่นนี้อาจส่งผลให้ต้องเข้านอนดึก จนทำให้สุขภาพของผิวหน้าไม่ดีตามมา ดังนั้นการเข้านอนแต่หัวค่ำยังคงเป็นสิ่งที่สาวๆ ควรให้ความสำคัญมากพอๆ กับการทานอาหารที่มีประโยชน์นั่นเอ

3.บำรุงผิวตอนเช้าด้วยเซรั่ม
หลังจากอาบน้ำและล้างหน้าในตอนเช้า สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการบำรุงผิวด้วยเซรั่ม เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ทำให้ผิวแลดูอิ่มฟูและสดชื่นขึ้น


4.ทากันแดดทุกวัน
แม้จะไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ครีมกันแดดก็ยังคงเป็นไอเท็มสำคัญที่สาวๆ ควรใช้ในทุกวัน จะทำงานอยู่แต่ในบ้าน ก็ใช่ว่าผิวจะไม่สัมผัสกับแสงแดด ที่สำคัญครีมกันแดดยังช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย เนื่องจากแสงชนิดนี้มีส่วนทำให้ผิวเสื่อมได้ในระยะยาว


5.ฉีดน้ำแร่เติมความฉ่ำวาว
การฉีดน้ำแร่เป็นการเพิ่มความสดชื่นให้กับใบหน้า พร้อมทั้งเติมความฉ่ำวาวให้ผิวหน้าแลดูสดใสมากยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวช่วยที่ดีในช่วงเวลาเร่งด่วนเลยทีเดียว วันไหนที่เจ้านายนัดประชุมออนไลน์ด่วนๆ แนะนำให้ฉีดน้ำแร่ เพียงแค่นี้ผิวหน้าก็สดใสไม่โทรมแล้ว

6.ผ่อนคลายผิวด้วยการมาสก์หน้า
การทำงานที่บ้านช่วยให้สาวๆ มีเวลาที่จะผ่อนคลายผิวได้บ้าง ซึ่งการผ่อนคลายผิวที่มีประสิทธิภาพมากๆ ก็คือ การมาสก์หน้า เพราะการมาสก์หน้าไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้าได้รับการผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยซ่อมแซมผิวอีกด้วย


7.เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อนล้างหน้า
ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่ก็ตาม แต่อย่าลืมว่าฝุ่นละอองและคราบมันต่างๆ ย่อมตกค้างอยู่บนใบหน้าได้เสมอ ดังนั้นก่อนล้างหน้า แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้าเสียก่อน เพราะช่วยให้ผิวสะอาดและลดปัญหาสิวกวนใจได้เป็นอย่างดี




8.ลดจุดด่างดำด้วยไวท์เทนนิ่ง
ช่วงเวลาของการทำงานที่บ้าน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผิวไม่โดนแสงแดดแรงๆ จนทำร้ายผิว ซึ่งการใช้ไวท์เทนนิ่งนั้นช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสและลดจุดด่างดำ พร้อมทั้งต้านอนุมูลอิสระไปพร้อมกัน






9.บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม
นอกจากจะบำรุงผิวหน้าแล้ว ผิวรอบดวงตาก็คือจุดสำคัญที่ต้องได้รับการบำรุงด้วยเช่นกัน เพราะการทำงานที่ต้องจ้องหน้าจอหลายชั่วโมง หรือทำงานจนดึกนั้น ล้วนส่งผลให้ผิวรอบดวงตาเกิดความหมองคล้ำได้ แนะนำให้ใช้อายครีมบำรุงผิวรอบดวงตา เพราะช่วยลดเลือนริ้วรอยและลดรอยคล้ำใต้ตาได้ดี




Monday, May 2, 2022

วัฒนธรรมความงาม

 



วัฒนธรรม โดยทั่วไปหมายถึง รูปแบบของกิจกรรมมนุษย์และโครงสร้างเชิงสัญลักษณ์ที่ทำให้กิจกรรมนั้นเด่นชัดและมีความสำคัญ วิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นพฤติกรรมและสิ่งที่คนในหมู่ผลิตสร้างขึ้น ด้วยการเรียนรู้จากกันและกัน และร่วมใช้อยู่ในหมู่พวกของตน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัย และ ความเหมาะสม แต่ถ้าเป็นในวิชาหน้าที่พลเมืองจะแปลว่าสิ่งที่มนุษย์ เปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญงอกงาม และสืบต่อกันมา

วัฒนธรรมส่วนหนึ่งสามารถแสดงออกผ่าน ดนตรี วรรณกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม การละครและภาพยนตร์ แม้บางครั้งอาจมีผู้กล่าวว่าวัฒนธรรมคือเรื่องที่ว่าด้วยการบริโภคและสินค้าบริโภค เช่น วัฒนธรรมระดับสูง วัฒนธรรมระดับต่ำ วัฒนธรรมพื้นบ้าน หรือวัฒนธรรมนิยม เป็นต้น แต่นักมานุษยวิทยาโดยทั่วไปมักกล่าวถึงวัฒนธรรมว่า มิได้เป็นเพียงสินค้าบริโภค แต่หมายรวมถึงกระบวนการในการผลิตสินค้าและการให้ความหมายแก่สินค้านั้น ๆ ด้วย ทั้งยังรวมไปถึงความสัมพันธ์ทางสังคมและแนวการปฏิบัติที่ทำให้วัตถุและกระบวนการผลิตหลอมรวมอยู่ด้วยกัน ในสายตาของนักมานุษยวิทยาจึงรวมไปถึงเทคโนโลยี ศิลปะ วิทยาศาสตร์รวมทั้งระบบศีลธรรม

วัฒนธรรมในภูมิภาคต่าง ๆ อาจได้รับอิทธิพลจากการติดต่อกับภูมิภาคอื่น เช่น การเป็นอาณานิคม การค้าขาย การย้ายถิ่นฐาน การสื่อสารมวลชนและศาสนา อีกทั้งระบบความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนามีบทบาทในวัฒนธรรมในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาโดยตลอด

วัฒนธรรม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • วัฒนธรรมทางวัตถุ คือ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อความสุขทางกาย อันได้แก่ ยานพาหนะ ที่อยู่อาศัย ตลอดจนเครื่องป้องกันตัวให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง