ความภาคภูมิใจที่แท้จริง

 Video

Story girl

1. 
   

2.

3.

การท่องเที่ยวในชนบท

 บ้านแม่ละนา

ตั้งอยู่ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมานานกว่า  200 ปี ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ บ้านแม่ละนา ถือเป็นชุมชนท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอนที่มีความน่าสนใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถ เยี่ยมชมหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทใหญ่  พักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ร่วมกับชาวบ้าน หรือจะพักรีสอร์ทที่ได้บรรยากาศแบบธรรมชาติ เห็นวิวนาข้าว ซึ่งมีให้บริการอยู่ 1 แห่ง  คือ แม่ละนาการเด้นโฮม ในราคาแค่หลักร้อยแต่ได้วิวบรรยากาศแบบเกินราคา

ผ้าถุงเสียว

มารู้จัก 6 ข้อดีของการกลับมาตื่นเช้ากันเถอะ!!

1. คนตื่นเช้ามักมีอารมณ์ดี แฮปปี้มากกว่าคนตื่นสาย

จากการวิจัยพบว่า คนที่ตื่นเช้ามีแนวโน้มจะมีอารมณ์ดี แต่นั่นแปลว่าคุณต้องเข้านอนในเวลาหัวค่ำ ไม่ดึกมากจนเกินไป เวลาทำงานช่วงกลางวันของคนส่วนมากจะอยู่ระหว่าง 9.00-17.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะยาวนาน หากคุณเป็นคนเข้านอนเร็วและตื่นเช้า คุณจะมีความสดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน แต่หากคุณเป็นคนนอนดึกมาก แถมยังต้องบังคับตัวเองให้ตื่นแต่เช้า ร่างกายของคุณจะอ่อนเพลียเพราะไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ในช่วงกลางวันคุณก็จะไม่รู้สึกสดชื่น สมองตัน คิดอ่านอะไรไม่ออก ในระยะยาวไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ดังนั้นหากอยากฝึกนิสัยให้ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่นแจ่มใส ต้องนอนให้เต็มที่สักวันละ 6 – 8 ชั่วโมงจะดีที่สุดค่ะ

2. มีเวลามากขึ้น

แน่นอน คนตื่นเช้ามักจะได้เปรียบ มีเวลามากขึ้นที่จะได้เริ่มทำกิจการงานต่างๆ ก่อนชาวบ้าน มีเวลาเข้ายิม หรือฟิตเนสในตอนเช้า ได้รับประทานอาหารเช้า ร่างกายกระปรี้กระเปร่า หากเป็นเจ้าของกิจการร้านค้าก็สามารถเปิดร้านเรียกลูกค้าได้เช้าก่อนใคร เหมือนดั่งสุภาษิตฝรั่งที่ว่า “Early bird catches the worm.” ซึ่งหมายความว่า คนที่ตื่นเช้าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เปรียบได้กับนกที่ออกหากินตั้งแต่เช้าจะจับหนอนได้ ดังนั้นการตื่นนอนแต่เช้าเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ

3. สมองปลอดโปร่งพร้อมรับทุกสถานการณ์

นอนแต่หัวค่ำ และตื่นแต่เช้า ร่างกายและสมองของคุณจะพร้อมในการเริ่มต้นกิจวัตรประจำวัน พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปได้หลายอย่างแล้ว เป็นกำไรชีวิต แถมคนที่ตื่นเช้าๆ ยังมีโอกาสได้รับอากาศบริสุทธิ์ในตอนเช้า ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่ สมองที่ปลอดโปร่ง สดชื่นพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเข้ามาในแต่ละวัน

4. มีทัศนคติที่ดี

มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับคนที่ตื่นเช้าเป็นประจำว่าจะมีสมองที่พร้อมคิด และสามารถประมวลข้อมูลต่างๆ ในสมองได้ดีกว่าคนที่ตื่นสายๆ รวมทั้งความกระฉับกระเฉง และความกระตือรือร้นต่อสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น มีพัฒนาการด้านทัศนคติที่ดี สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างชาญฉลาด และสุขุมมากกว่าคนที่ตื่นสาย

5. ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า

จากผลการศึกษา และการวิจัยพบว่า คนที่เข้านอนเร็ว และตื่นเช้ามีอัตราความเสี่ยงความเป็นโรคซึมเศร้าน้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ระบบต่าง ๆ ทำงานตามรอบเวลาที่นาฬิกาชีวิตกำหนดมาได้เป็นอย่างดี สุขภาพจิตและกายจะแข็งแรง จึงมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้น้อยถึงน้อยมากที่สุด

6. อิ่มท้องกับอาหารเช้าได้ทุกวัน

มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ไม่ควรขาดการทานอาหารเช้า คนที่นอนตื่นเช้ามักได้เปรียบเพราะมีเวลาได้ทานอาหารเช้าโดยไม่ต้องรีบเร่ง ได้ทานอาหารให้อิ่มท้องพร้อมพบกับทุกสิ่งที่กำลังจะเข้ามาในแต่ละวัน ไม่เหมือนคนที่นอนตื่นสาย แทบไม่มีเวลาทานอาหารเช้า ต้องรีบเร่งแข่งกับสภาพการจราจรออกไปทำงาน หลายคนสกิปอาหารเช้าไปเลย และอีกหลายคนก็จิบกาแฟเพียงแก้วเดียวในการเริ่มต้นวันใหม่ ทำให้สภาพร่างกายและสมองไม่พร้อมต่อการสู้งานหนักในแต่ละวัน หากคุณตื่นเช้าๆ รับประทานอาหารเช้าให้เต็มที่ท้องก็จะไม่ร้องว่าหิว และร่างกายสามารถฟังก์ชั่นทำงานได้อย่างเต็มที่อย่างแน่นอนค่ะ

เห็นด้วยมั๊ยคะกับ 6 ข้อดีในการตื่นเช้า กลับมาปรับตัวกันใหม่หลังจากได้นอนตื่นสายๆ กันมาอย่างยาวนาน ที่แน่ๆทุกคนดีใจที่กำลังได้อิสรภาพ ได้ชีวิตใหม่กลับมาอีกครั้ง ต้องหัดตื่นเช้ากันให้ชินนะคะ ที่สำคัญที่สุด ไปไหนมาไหนอย่าลืมเรื่องความปลอดภัย ต้องใส่หน้ากากอนามัยและพอแอลกอฮอล์ทำความสะอาดนะคะ ขอให้คุณคนมีความสุข และปลอดภัย เราจะผ่านวิกฤติร้ายๆ ไปด้วยกันค่ะ

 

ผ้าถุงเสียว

สไตล์ผ้าถุง

 

งานหัตถศิลป์จากภาคใต้ ‘ผ้าปาเต๊ะ’ แปรโฉมสู่เสื้อผ้าสไตล์รีสอร์ทบนรันเวย์ อวดความไฉไลของลวดลายและสีสัน เอกลักษณ์วัฒนธรรมร่วมของผู้คนในคาบสมุทรมลายู

สไตล์ผ้าถุงเมื่อดีไซเนอร์  เอกกมล อรรถกมล นำเสนอคอลเลคชั่น Neo Peranakan โดยนำ ผ้าปาเต๊ะ ผ้าพื้นเมืองของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณคาบสมุทรมลายู รวมถึงคนภาคใต้ และสาวบาบ๋าจากภูเก็ต ที่นิยมนุ่งผ้าปาเต๊ะมาตั้งแต่อดีต โดยนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าร่วมสมัย นำเสนอในงาน The Living Art Festival 2020 เมื่อปลายเดือนธันวาคม ที่บลูทรี ภูเก็ต

    เอกกมล อรรถกมล (ที่สองจากซ้าย)

นักออกแบบ เอกกมล แห่งแบรนด์ Eggamon เล่าว่า

“แรกเริ่มเลยวางแผนจะออกแบบลายผ้าเอง โดยร่วมกับห้องเสื้อที่ทำผ้าบาติกแบรนด์หนึ่ง แต่เนื่องติดสถานการณ์โควิดและมีเวลาไม่พอ ก็เลยต้องชะลอโครงการนั้นไว้ แล้วปรับเป็นคอลเลคชั่นจากผ้าปาเต๊ะ จำนวน 10 ชุด ที่ออกแบบให้ร่วมสมัยขึ้น และแสดงถึงแคแรกเตอร์ของภาคใต้ มีคอนเซปต์ที่เกี่ยวพันกับวัฒนธรรมเพอรานากัน ผมนำผ้าปาเต๊ะจากภาคใต้ของไทยมาประยุกต์ให้ร่วมสมัย หยิบของพื้นเมืองมาใช้ในมุมมองใหม่ ใน 5 ชุดแรกบนรันเวย์เรียกว่า รีสอร์ทแวร์ ออกแบบให้โมเดิร์นขึ้น สวมใส่ง่าย ๆ ไปทะเล ไปรีสอร์ท โดยนำมามิกซ์ แอนด์ แมทช์ กับผ้าชนิดอื่น แต่ให้พื้นที่ของผ้าพื้นเมืองเป็นตัวเด่น เช่น ผ้าซาติน ผ้าที่ใช้ตัดสูทผู้ชาย มาออกแบบเป็นชุดกลางวัน ใส่เดินเล่นริมทะเล หรือใส่เป็นเสื้อคลุมชุดว่ายน้ำ”

ผ้าปาเต๊ะพื้นเมืองเฉดสีน้ำตาล ผสมผสานกับผ้าซาตินสีทอง ผ้าซาตินสีขาว ตัดเย็บเป็นกางเกงทรงฮาเร็มใส่กับเสื้อเชิ้ตสำหรับชุดผู้ชาย ส่วนชุดสุภาพสตรีตัดเย็บเป็นเดรส และเสื้อคลุม

“ส่วน 5 ชุดหลัง เป็นปาเต๊ะที่เพ้นท์ลายดอกโบตั๋น นำมาประยุกต์ใส่โทนสีทอง สีแดง และสีดำ เป็นชุดรีสอร์ทที่หรูหราขึ้น เช่น แต่งตัวสวย ๆ มาดินเนอร์ เอาปาเต๊ะที่เขียนลายทอง และเพ้นท์รูปดอกโบตั๋นโดยนำสีทองมาตัดเส้นเป็นอีฟนิ่งเดรสในอารมณ์รีสอร์ท

ผ้าปาเต๊ะ เป็นงานหัตถศิลป์จากภูมิปัญญาของผู้คนในแหลมมลายู ผ้าปาเต๊ะเป็นการวาดมือ เกิดจากการวาดจุดหรือเขียนลายเส้น ส่วนผ้าบาติกจะเอามาพิมพ์ แต่ถ้าเป็นบาติกที่เขียนมือแบบฟรีแฮนด์ทั้งผืนจะมีราคาแพง แต่ถ้าเขียนมือล็อกหนึ่งแล้วนำไปพิมพ์ราคาก็จะถูกกว่า ในคอลเลคชั่น Neo Paranakan นั้นใช้ทั้งบาติกและปาเต๊ะโดยเน้นที่ผ้าปาเต๊ะมากกว่า ข้อสังเกตคือผ้าปาเต๊ะจะมีเชิงแบบผ้าถุง ในขณะที่ผ้าบาติกไม่มี ผ้าทั้งสองประเภทนี้มีกระบวนการทำคล้ายกันต่างกันบ้างตรงเทคนิค